ปฏิเสธไม่ได้ว่าจากปัญหาโรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ทำให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่การเลือกใช้หน้ากากอนามัยให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานนั้นก็มีความสำคัญและต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก โดยหน้ากากที่เราสามารถพบได้ตามท้องตลาดทั่วไปนั้นมีดังนี้
1. หน้ากากทางการแพทย์
เป็นหน้ากากอนามัยที่ผลิตขึ้นจากผ้าหรือพอลิโพรไพลีนซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความปลอดภัย สามารถป้องกันเชื้อโรคที่ผ่านเข้ามาทางระบบทางเดินหายใจได้ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยนำเชื้อแพร่กระจายไปยังผู้อื่นได้ ป้องกันฝุ่นและเกสรดอกไม้ ดังนั้นหน้ากากทางการแพทย์จึงเป็นที่นิยมสำหรับแพทย์ในการเลือกใช้ วิธีการสวมใส่ที่ถูกวิธีคือนําด้านสีฟ้าหรือสีเขียวออกด้านหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งจากผู้อื่นเข้ามาสู่ผู้สวมใส่ มีอายุการใช้งานเพียงครั้งเดียวแต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาควรดำเนินการทำลายก่อนทิ้ง
2. หน้ากากกันฝุ่นแบบใช้แล้วทิ้ง
รูปร่างลักษณะอาจใกล้เคียงกับหน้ากากทางการแพทย์ แต่จะมีคุณสมบัติในการป้องกันด้อยกว่าหน้ากากทางการแพทย์ผลิตจากใยสังเคราะห์ซ้อนทบชั้นกัน ซึ่งโดยมากจะมีประมาณ 3 ชั้น คุณสมบัติทั่วไปของหน้ากากอนามัยชนิดนี้มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่น พบวางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไปราคาไม่แพงแต่ในกรณีของเชื้อไวรัสจะไม่สามารถป้องกันได้โดยตรงและไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำควรทำการเปลี่ยนหน้ากากใหม่ทุกวัน
3. หน้ากากคาร์บอน
เป็นหน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติไม่ต่างจากหน้ากากทางการแพทย์มากนั้น แต่จะมีชั้นของวัสดุพิเศษขึ้นมาอีกชั้น ซึ่งทำจากคาร์บอนจึงสามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ ความหนา เส้นใยสังเคราะห์ถึง 4 ชั้น สามารถกรองเชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง ได้ดีแต่ก็เป็นหน้ากากอีกประเภทหนึ่งที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้ ต้องทำลายก่อนทิ้งทุกครั้ง
4. หน้ากาก N95
เป็นหน้ากากอนามัยที่จะพูดถึงกันมากที่สุดเมื่อเกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่มาเยือนเป็นประจำในช่วงฤดูหนาว เป็นหน้ากากที่มีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก ไปจนถึงฝุ่นควันขนาดใหญ่ต่าง ๆ ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม และยังสามารถป้องกันเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ ทั้งเชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย หน้ากาก N95 มีราคาสูงกว่าหน้ากากประเภทอื่น ๆ และหน้ากากบางรุ่นอาจเพิ่มช่องสำหรับหายใจที่เรียกว่า Exhalation valve เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่หายใจได้สะดวกขึ้น หน้ากาก N95 ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอด และหญิงตั้งครรภ์ เพราะยากที่จะหายใจผ่านเข้า-ออกได้อย่างเต็มที่
5. หน้ากากผ้า
หน้ากากผ้า คือหน้ากากอนามัยที่ได้รับความรู้จัก และนิยมกันอย่างแพร่หลายในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 และเกิดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย จึงต้องหาวัสดุทดแทนที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้ โดยหน้ากากผ้านั้นมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับหน้ากากกันฝุ่นแบบใช้แล้วทิ้ง แต่จะมีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นละอองขนาดใหญ่ และการกระจายของเหลวต่าง ๆ จากร่างกายอย่างน้ำมูก น้ำลาย ได้ แต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้โดยตรง และไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดีหน้ากากประเภทนี้มีข้อดีที่สามารถซักทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยประหยัดเงินได้ดี
6. หน้ากากฟองน้ำ
เป็นหน้ากากอนามัยอีกประเภทที่สามารถซักทําความสะอาด และยังมีข้อดีที่แห้งเร็ว พับเก็บโดยไม่ยับได้ไม่เสียทรง แต่ประสิทธิภาพการป้องกันค่อนข้างน้อย
เมื่อทราบประเภทและคุณสมบัติของหน้ากากประเภทต่าง ๆ แล้วก็หวังว่าทุก ๆ ท่านจะสามารถเลือกใช้หน้ากากที่เหมาะสมกับประสิทธิภาพที่ต้องการได้อย่างเหมาะสมแล้ว